หลายเดือนที่ผ่านมา ผมต้องเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ทุกวัน วันละ 2-3 รอบ รวมๆ แล้วเสียเวลาไปกับรถไฟฟ้าไปประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ทุกวัน
สื่อบันเทิงเดียวบนรถไฟฟ้าที่มีให้ผมสนใจ คือ ทีวี ซึ่งเป็นรายการโฆษณาที่ทาง BTS เอามาฉายเป็นรายได้เสริม (อันนี้คิดว่าใช่นะ ไม่ได้ไปหาข้อมูล)
ซึ่งนับได้ว่าไอ้ทีวีอันเนี้ย เป็นสื่อที่ประชาสัมพันธ์ได้ติดหูติดตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะคนที่จำเป็นต้องเดินทางทางนี้ ก็จะได้ยินเสียง / ได้ดูโฆษณาติดตาไปทุกวันๆ
แต่ก็เป็นปัญหากับโฆษณาที่ดีแต่ทุ่มเงิน แต่ไร้ซึ่งจินตนาการ / ความคิดสร้างสรรค์
อาทิเช่น โฆษณาสินค้าตัวหนึ่งเป็นรังนก เนื้อหากล่าวประมาณว่าการให้รังนกแม่เนี่ย เป็นอะไรที่แม่รู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่มากๆ
แต่สำหรับคนดูที่รู้ชัดๆ ว่าไอ้โฆษณานี้มันเฟคสุดๆ เนี่ย นอกจากความรู้สึกหมั่นไส้ว่าไอ้รังนกนี่มันไม่ได้ดิบดีอะไรขนาดนั้นแล้ว ยังเกิดความคิดว่ายี่ห้อนี้มันตกต่ำลงไปเพราะแนวความคิดในการโฆษณาแบบนี้ (ทำยังกะรังนกเป็นจตุคาม)
หรือก่อนหน้านี้มี MV นักร้อง(ไม่)สาวคนหนึ่ง ร้องเพลงไทยปนอังกฤษ แต่ฟังไม่รู้เรื่อง สำหรับผมนอกจากจะติดหูในแง่ลบแล้ว ยังรำคาญอีก
หรือโฆษณาพวกครีมบำรุงผิว ที่ทำเป็นให้คนทดลองก่อนแต่งงานกับหลังแต่งงาน ดูปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าจะมาแนวไหน หลอกชาวบ้านไปวันๆ ไอ้โฆษณาทำนองนี้มีมาตั้งแต่ผมอยู่ประถมแล้วล่ะครับ แล้วนางแบบที่เอามาโฆษณาเนี่ย ก็ยังมีข่าวแย่ๆ อีกต่างหาก (กระทู้แนะนำพันทิพห้องเฉลิมกรุงครั้งหนึ่ง ซึ่งมีคนมาบ่นถึงไฮโซทำตัวเกรียน)
ขี้เกียจยกตัวอย่างแล้วครับ
เอาเป็นว่า ในมุมมองของผมเนี่ย ถ้าผลิตภัณฑ์ไหนมั่นใจว่าโฆษณาตัวเองดีจริงๆ ค่อยเอาไปลงบน BTS เถอะครับ
ก่อนชื่อเสียงผลิตภัณฑ์จะเสียไปเพราะครีเอทีฟที่คุณจ้างมา
(เบื่อโฆษณาห่วยๆ ครับ)
วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2550
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
2 ความคิดเห็น:
ช่าย ปกติถ้าเราโดยสารโดยรถไฟฟ้านะ เราก็มักจะฟังเพลง
แต่มีโฆษณานึงนะที่ชอบ ... ก็ข้าวเกรียบ ที่ลูกกุ้ง
เรียกคุณพ่อซิคราบ มันน่ารักดี อิอิ
นี่มันเรื่องที่คุยกันบนรถเมื่อวานใช่ไหม
เบี๊ยเบี่ยโฆษณาไทย เดี๋ยวนี้มีมากเกินไปอ่ะ ไปไหนก็เจอแต่โฆษณา แสดงถึงความเห็นแก่ได้ของคน
(แต่มันก็เป็นอาชีพเค้านี่เนอะ)
แสดงความคิดเห็น